9 มิ.ย. 2558

พรีวิว Xiaomi Yi Sports Camera


พรีวิว Yi Sports Camera กล้อง action camera ราคาประหยัดจาก Xiaomi 

หลังจากที่ Xiaomi ได้เปิดขาย Yi Sports Camera กล้อง action camera ในราคาประหยัดไปเมื่อต้นเดือนวานที่ผ่าน ทำให้หลายๆ คนอยากจะหา Yi Sports Camera มาเป็นเจ้าของ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมจึงลองหาข้อมูลจากต่างประเทศพบข้อมูลที่น่าสนใจจึงนำมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆ ได้อ่าน เผื่อเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังสนใจเจ้านี่อยู่ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
เริ่มแรกเรามาดูสเปกของตัวเครื่องกันก่อน ตัว Yi Sports Camera นั้นใช้ตัว sensor จาก Sony (Sony Exmor R CMOS) มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและมีมุมมองที่กว้างถึง 155˚ ใช้ชิปเซ็ตประมวลผลภาพ (image processor) จาก Ambarella A7LS  (เป็นชิปเซ็ตเดียวกันกับที่ใช้ใน GoPro Hero3 Black)ส่วนหน่วยความจำจะไม่มีติดมากับกล้องต้องหาใส่เพิ่มเอา ซึ่งตัว Yi Sport Camera รองรับ Micro SD Card ได้สูงสุด 64 GB ส่วนแบตเตอร์รี่ที่ให้มามีความจุสูงถึง 1010 mAh และรองรับการประจุได้อย่างรวดเร็ว (Quick Charge) แต่ไม่ได้แถมอแดปเตอร์มาให้ในกล่อง Sad นอกจากนี้แล้วยังสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 40 เมตร ถ้าสวมใส่อุปกรณ์เสริมสำหรับการกันน้ำ ซึ่งในส่วนนี้ต้องซื้อเพิ่ม (แต่ยังไม่มีขาย) ส่วนสเปก Yi Sports Camera แบบเต็มๆ สามารถดูได้ด้านล่าง 
Specification
Model: Yi Sports Camera
Color: White | Jungle
Capacity Support Micro SD Card(up to 64GB, need to buy saparately)
Recommend to use Class 10 for better experience 
Multi-Languages English, Simplified Chinese, Traditional Chinese
Processor  Ambarella A7LS
Main Features - 72 Grams and made from PC + ABS and metal composite materials
- Sony Exmor R BSI CMOS 16 Million Pixel Sensor
- 155° (Mobile Phone 89°) Wide Angle Lens
- 3D Noise Reduction
- WiFi Connectivity (Up to 100 Metres), easily transfer video and photos to your smartphone
- BLE Ultra-low power consumption
- Bluetooth and Remote App control
- 4 Operating modes include;  Photo, Time-lapse photo, Timed photo and Video
- Share to social media within 10 seconds using the smartphone APP.
Camera H.264 Video encoding with Sport level image processor providing ultra high-fluency.
MP4
Picture:
Resolution: 16MP, 4608X3456 pixels Max
Time Lapse: 0.5S/1S/2S/5S/10S/30S/60S
Timing capture; 3-15S
Track Capture:7PCS/Second
Video Capture:
1080p@60fps, 1080p@48fps, 1080p@30fps, 1080p@24fps
960@60fps, 960@48fps,
720p@120fps, 720p@60fps, 720p@48fps, 
480p@240fps, 
Record Systerm  2-channel stereo
96KHz Sample
92dBA SNR (  Signal to Noise Ratio)
Battery capacity and life Removable 1010mAh lithium-ion battery
Others: Support Quick Charge
 Wireless Connectivity WIFI
Bluetooth 4.0
Size Dimensions: 60.4mm×42mm×21.2mm (2.4x1.7x0.83in)
Net Weight:  72g (2.54 oz)
แกะกล่อง
ภายใน กล่องจะมีเพียงตัวกล้อง แบตเตอร์รี่ สายไมโคร USB และคู่มือเท่านั้น ส่วนอแดปเตอร์สำหรับชาร์จไม่มีแถมมาให้ สามารถดูคลิปการแกะกล่องได้ตามวิดีโอด้านล่าง
การเชื่อมต่อและการตั้งค่า
การเชื่อมต่อมือถือ Yi Sports Camera สามารถเชื่อมต่อผ่านแอพของ Xioami ได้ โดย link สำหรับดาวน์โหลดจะเป็น QR Code อยู่ในคู่มือ โดยตัวแอพนั้นรองรับภาษาอังกฤษด้วย (อ้างอิงตามสเปกด้านบน) สามารถดูวิธีการเชื่อมต่อมือถือได้จากคลิปแกะกล่องด้านบน
ส่วนการตั้งค่าตัวกล้อง Yi Sports Camera เช่น การปรับเปลี่ยนความละเอียดภาพนิ่ง ปรับเปลี่ยนความละเอียดในการบันทึกวิดีโอ เราไม่สามารถตั้งค่าจากตัวกล้องได้ เราจำเป็นต้องตั้งค่าผ่านมือถือที่เชื่อมต่อ Yi Sports Camera เท่านั้น แต่การเปลี่ยนโหมดการถ่ายเช่น ภาพนิ่ง วิดีโอ Time Lapse ยังไม่แน่ใจในข้อมูลว่ามันสามารถเปลี่ยนโหมดได้จากกล้องโดยตรงได้ไหม
ส่วนความลื่นไหลในการเชื่อมต่อของ Yi Sports Camera กับมือถือ จากประสบการณ์ที่เคยได้ใช้แอพ PlayMemories จาก Sony ดูเหมือนว่าการเชื่อมต่อ Yi Sports Camera นั้นทำได้ดีกว่า PlayMemories (ดูจากคลิปด้านบน) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอตัวจริงอีกทีว่าจะเป็นยังไง
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพถ่ายในตอนกลางวันและภาพถ่ายในร่มถือว่าใช้ได้เลยสำหรับ action camera ที่ราคาไม่แพงอย่าง Yi Sports Camera แต่ภาพถ่ายตอนกลางคืนก็ถือว่าพอใช้ อาจจะมี noise ให้เห็นบ้าง และต้องทำให้มือนิ่งพอสมควรสำหรับการถ่ายตอนกลางคืน ไม่งั้นภาพที่ได้มีสิทธิเบลอสูง
ตัวอย่างภาพถ่ายวิดีโอ
วิดีโอด้านบนเป็นการเปรียบเทียบระหว่าง Yi Sports Camera กับ GoPro Hero3 และ GoPro Hero4 ซึ่งจะเห็นได้ว่า GoPro Hero3 และ 4 นั้นเก็บรายละเอียดของวิดีโอได้ดีกว่าชัดเจน แต่ Yi Sports Camera ก็ไม่ได้ถือว่าขี้เหร่ ถือว่าคุณภาพเหมาะสมกับราคาของ Yi Sports Camera ที่ถูกกว่าครึ่งนึงเมื่อเทียบกับราคาของ GoPro Hero3 ตัวถูกสุด
แต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถหาวิดีโอของ Yi Sports Camera ที่บันทึกในยามกลางคืนได้ ซึ่งถ้าหากผมหาเจอจะมาแปะเพิ่มให้
เพิ่มเติม การทดสอบวิดีโอ Yi Sports Camera vs SJ4000 Wifi ในที่แสงน้อย
จะเห็นได้ว่าในที่แสงน้อย SJ4000 Wifi ซึ่งเป็นตัว action camera ราคาถูกจากจีนเหมือนกันนั้นทำได้ดีกว่า Yi Sports Camera สังเกตุได้จากรายละเอียดในวิดีโอที่ SJ4000 Wifi นั้นเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า แต่ Yi Sports Camera สามารถวัดแสงที่แสงน้อยไปที่แสงมาก และที่แสงมากไปที่แสงน้อยได้เร็วกว่า SJ4000 Wifi
หมายเหตุ สเปกของ Yi Sports Camera นั้นเทียบเท่ากับ SJ Action Camera รุ่นล่าสุด SJ5000 (ทั้งชิปเซ็ตและ image processor ใช้ตัวเดียวกัน)
สรุป
ถึงแม้ว่าคุณภาพของวิดีโออาจจะยังไม่เทียบเท่าคู่แข่งราคาแพงอย่าง GoPro ได้ แต่สำหรับภาพนิ่งดูเหมือนว่า Yi Sports Camera จะชนะ GoPro Hero3 เมื่อถ่ายในที่แสงน้อย (sayocincau) ซึ่งตั้งแต่เริ่มเปิดขายมา Yi Sports Camera นั้นก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำให้กลายเป็นของหายาก ราคาหิ้วในไทยจึงถีบตัวสูงตาม โดยสูงถึง 4000 บาทสำหรับรุ่นที่มาพร้อมกับไม้เซลฟี่ ถ้าหากใครไม่รีบร้อนยังรอได้ก็ควรจะรออีกซักหน่อย เชื่อว่าอีกไม่นานราคาก็น่าจะลดลง

ราคาสำหรับตัวกล้องเพียงอย่างเดียว ¥399 (~2100 บาท) ส่วนราคากล้อง + ไม้เซลฟี่ ¥499 (~2650 บาท)

iOS 9 สัมผัสแรก มีอะไรเปลี่ยนบ้างไปชมภาพกัน


iOS 9 สัมผัสแรก มีอะไรเปลี่ยนบ้างไปชมภาพกัน
ios 9 icon
Apple ได้แนะนำ iOS 9.0 ในงาน WWDC15 ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานกันจริงๆ ก็ช่วงกันยายน 2558 นี้ แต่ในส่วนของนักพัฒนานั้นสามารถดาวน์โหลดมาทดดสอบได้แล้ว ไปชมกันว่ามีอะไรบ้างที่เปลี่ยนแปลงแบบสังเกตได้ชัดๆ ไปชมกัน

หน้าจอหลัก iOS 9

– มีแอป Wallet เพิ่มเข้ามาและชัดๆ คือมีวอลเปเปอร์ใหม่
– เปลี่ยนฟอนท์ใหม่
ios9-beta1-6ios9-beta1-22

2. Multitasking แบบใหม่

เมื่อกดปุ่ม home 2 ครั้งต่อกันจะเจอหน้าตาแบบนี้ จากนั้นสไลด์ขึ้นด้านบนเพื่อปิดแอป
ios9-beta1-7

3. ตั้งค่ากล้องถ่ายวีดีโอ

เลือกความละเอียดของวีดีโอได้ว่าจะถ่ายแบบไหน ทั้งวีดีโอธรรมดาหรือแบบ Slo-mo
ios9-beta1-1ios9-beta1-2
ios9-beta1-3

โหมดประหยัดพลังงาน Battery Low Power Mode

หาก แบตเหลือน้อยให้เปิดโหมดนี้เพื่อจะใช้เครื่องได้นานขึ้น เพราะโหมดนี้จะไปปิดฟีเจอร์อย่าง Backgroud app refresh ลงและลดความเร็วพวกระบบเครือข่าย ทำให้กินแบตน้อยลง Apple บอกว่าโหมดนี้จะช่วยยืดแบตให้ยาวนานกว่าเดิมได้ 3 ชม.
ios9-beta1-21ios9-beta1-8
หลังเปิด Low Power Mode ที่สัญลักษณ์แบตจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
ios9-beta1-10

Photos มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย

ios9-beta1-16 ios9-beta1-15

ฟีเจอร์ค้นหาจาก Spotlight

ios9-beta1-14

Siri Suggestion

จากหน้าโฮมหลัก สไลด์จอมาด้านซ้ายจะเจอ
ios9-beta1-13

iMessage

ตั้งค่าได้ว่าให้คู่สนทนาเห็นว่าเราอ่านข้อความที่เขาส่งมาแล้วหรือไม่ ตั้งได้รายบุคคลเลย
ios9-beta1-11

วอลเปเปอร์ใหม่ของ iOS 9

ios9-beta1-24

Music ใหม่

ตั้งแต่ iOS 8.4 Apple ได้ปรับปรุง UI ของ Music ใหม่และพร้อมรองรับ Apple Music ที่จะเปิดบริการวันที่ 30 มิถุนายน 2558 นี้
ios9-beta1-19 ios9-beta1-18 ios9-beta1-17

ธงไทยใน Emoji ของ iOS 9

ทีให้ใช้แล้วนะครับ
ios9-beta1-31

การตั้งค่า Search

ios9-beta1-30

Keyboard

ตั้งค่าเขย่าเครื่องเพื่อเลิกทำ
ios9-beta1-29

Touch Accommodations ใน Accessibility

ios9-beta1-28 ios9-beta1-27

การจัดการพื้นที่ในเครื่องและ iCloud

ios9-beta1-25ios9-beta1-26

Notes

มีการปรับปรุงใหม่





note-ios9

หมดเท่านี้ก่อนนะครับที่หาเจอ ถ้ามีอะไรใหม่เพิ่มจะอัปเดตให้ทราบอีกที
– โหมด SplitView ใน iPad ยังไม่ได้สอบ
– รอทดสอบ iOS 9 บน iPhone 4s ต่อ

ที่มา บทความโดย iPhonemod

3 มิ.ย. 2558

รีวิวEngenius EDS1130 กล้องวงจรปิดที่เซ็ตง่ายที่สุดในโลก

รีวิวEngenius EDS1130 กล้องวงจรปิดที่เซ็ตง่ายที่สุดในโลก


ผม แอบเลี้ยงหมาในคอนโดครับ (มาบอกแบบนี้ก็ไม่แอบแล้วสิ) .. และด้วยการแอบเลี้ยงเนี่ย ช่วงกลางวัน ผมกับจอยก็ออกมาทำงานกันทั้งคู่ ก็เลยเป็นห่วงว่า ตอนกลางวันเจ้าเมล่อนจะเป็นยังไง สุขสบายไหม เพราะตอนผมกับจอยไม่อยู่บ้าน ก็จะขังเมล่อนไว้เพราะกลัวบ้านพัง บวกกับกลัวมันไปกัดสายไฟเข้า (มันเคยแทะสาย HDMI ผมกระจุยมาแล้ว) ทีนี้ระหว่างวันด้วยความคิดถึง ก็เลยอยากจะติดกล้องวงจรปิดเพื่อดูหน้าตาหน่อยว่ายังสบายดีกันอยู่หรือเปล่า นี่แหละครับ
IMG_7112
ก็ ไปได้มาตัวนึง ยี่ห้อ Engenius ที่ผมเคยรีวิว Wireless Router ของยี่ห้อนี้มาก่อน .. เห็นหน้ากล่องเขียนว่า Intelligent IP-Camera .. ด้วยความสนใจก็เลยอยากจะรู้ว่ามัน “ฉลาด” สมกับที่แปะไว้หน้ากล่องแค่ไหน
โดยทั่วไปการ กล้องวงจรปิดมี 2 ประเภท คือแบบ CCTV กับแบบ IP-Camera ครับ
แบบ CCTV ก็จะมีกล่อง DVR คอยคุมกล้องแล้วตัวกล้องก็จะใช้สาย Coaxial ต่อออกไป ข้อดีของระบบ CCTV คือ ถ้าคุณใช้กล้องเยอะๆ มันจะราคาถูกกว่า เพราะความสามารถถูกควบคุมจากกล่อง DVR อย่างเดียว
ส่วนแบ IP-Camera ก็จะสามารถทำทุกอย่างได้ในตัวมันโดยที่ไม่ต้องใช้กล่อง DVR ครับ ข้อเสียก็คือ แพงเนี่ยแหละครับ ถ้าจะขึ้นระบบซัก 30 กล้อง ก็อาจจะหน้ามืดได้
แต่อย่างไรก็ตาม ในระบบใหญ่มาก ที่ใช้กล้องกันเป็น ร้อยๆ ตัว อย่างสนามบินสุวรรณภูมิ การใช้ IP Camera นั้น เพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่ามหาศาลครับ เพราะมีระบบสนับสนุนเยอะมากๆ ชนิดกล้อง CCTV สู้ไม่ได้
แต่ใช้ในบ้านเพื่อดูหมาอย่างผม กล้องตัวเดียวก็พอแล้ว
IMG_7113
EDS-1130 เป็นกล้องรุ่นล่าสุดจาก Engenius ความเจ๋งของมันคือ ง่ายสำหรับทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง การเชื่อมต่อ การเซ็ตอัพ และการใช้งาน มาดูกันไปทีละเรื่องละกันครับ
IMG_7116
แกะกล่องมาก็เจออุปกรณ์ดังต่อไปนี้
  • ตัวกล้อง
  • ขายึด (ยึดผนัง / เพดาน / วางพื้น) ได้หมด
  • สาย RJ-45 แบบสั้นไว้ต่อกับ Wall Mount
  • น็อตยึดกับฝ้า
  • Power Adapter
  • คู่มือและแผ่น QR Code เพื่อการจับคู่เจ้ากล้องตัวนี้
IMG_7119
ตัว กล้องรองรับความละเอียด HD 720p และมี Infrared Sensor ไว้ถ่ายภาพกลางคืนมาให้ในตัว ซึ่งจะมีสติ๊กเกอร์แปะอยู่หน้ากล่อง แกะออกก่อนนะครับ
IMG_7120
เรา สามารถเสียบ MicroSD Card เพื่อบันทึกภาพในตัวกล้องเลยก็ได้ และควรเลือกการ์ดความเร็วสูงๆหน่อย ไม่อย่างงั้นจะเขียนภาพไม่ทันนะครับ รองรับแบบ SDHC ความจุสูงสุดได้ 32GB ครับ
IMG_7121
ด้านหลังก็มีช่องเสียบ Power Adapter / ช่องเสียบลำโพง / ปุ่ม Reset / ปุ่ม WPS ไว้กดเพื่อเชื่อมระบบไร้สายเข้ากับที่บ้านเราครับ
IMG_7123
ที่ผมบอกว่าติดตั้งง่ายก็คือ แค่หมุนตัวกล้องเข้ากับขายึด ก็ใช้ได้แล้ว
IMG_7125
แถม ตัวขายึดยังพลิกเพื่อนำไปติดเพดานหรือกำแพงได้อีกด้วยครับ สมัยก่อนเวลาติดพวก IP Camera ขาวางพื้นกับขาติดผนังนี่จะแยกกันมา ผมก็ไม่เข้าใจทำไมไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่แรก นี่แหละครับ ติดตั้งง่าย เพราะแค่หาจุดติดตั้งแล้วเสียบปลั๊กไฟก็เรียบร้อยแล้ว
diagram-WPS
สำหรับ เรื่องของการติดตั้งง่ายยังมีอีกเรื่องครับ นั่นก็คือกล้องตัวนี้รองรับการเชื่อมต่อด้วย Wireless N 150Mbps ที่มีระบบ WPS มาด้วย เจ้าระบบ WPS เนี่ย เป็นความสามารถในอุปกรณ์ Network แบบใหม่ที่ทำให้อุปกรณ์สองตัวรู้จักกันได้ โดยที่เราไม่ต้องไปกรอก Wifi Key ให้มันครับ วิธีการก็ง่ายมาก ถ้า Wireless Router ของคุณมีระบบ WPS อยู่ จะมีเจ้าปุ่ม WPS บนเครื่อง กดที่ฝั่ง Wireless Router ก่อน จากนั้นก็กดที่กล้อง หลังจากนั้น ทั้ง 2 ตัวก็จะแลก Profile กัน รู้จักกันโดยที่เราไม่ต้องไปทำอะไรยุ่งยากเหมือนเมื่อก่อนเลยครับ
ตอนนี้อุปกรณ์ Network รอบๆตัว จะรองรับ WPS กันเยอะมากแล้ว หัดใช้ไว้นะครับ ชีวิตจะสะดวกขึ้นมากเลยทีเดียว
SNAG-0125
ผม ตั้งกล้องเอาไว้ที่หน้ากรงเมล่อนครับ เอาไว้ดูว่าตอนนี้เมล่อนมันเป็นไงมั่ง หลังจากที่ Setup เสร็จก็สามารถเข้าไปดูได้ผ่านทาง Browser แบบนี้แหละ จริงๆ คือ ถ้าคนที่ทำงานด้าน Network มาติดตั้งระบบกล้อง IP Camera แบบนี้มันหมูมากๆ แต่กับคนทั่วไปคงจะไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
098
ทาง Engenius เค้าก็เลยทำ App ขึ้นมาให้ชื่อว่า EnViewer ครับ นอกจากเราสามารถดูภาพผ่าน App ตัวนี้ได้แล้ว ยังสามารถเข้าไปจัดการกล้องผ่าน App ได้ง่ายๆอีกด้วย
ทุกทีเวลาที่เราจะทำระบบดูกล้องทาง Internet สิ่งที่ต้องทำ 2 อย่างก็คือ
  1. ทำ Dynamic DNS เพื่อบอกให้อุปกรณ์ที่จะเข้าไปดูรู้ว่าตอนนี้ Internet ที่เราเชื่อมกับกล้องอยู่มันทำงานอยู่ที่ IP Address ไหน เพื่อทีจะ Access กลับไปที่บ้านของเราได้
  2. พอวิ่งมาถึงบ้านของเราแล้ว ยังต้องทำ Port Forwarding เพื่อบอกให้ Router ส่งข้อมูลว่าเราอยากจะดู ไปที่กล้องของเราอีก
ซึ่งขั้นตอนทั้ง 2 อย่าง เหมือนจะง่าย แต่ก็โคตรยากสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐาน Network และความเข้าใจตรงนี้มาก่อน
IMG_7118
แต่ Engenius EDS-1130 ตัวนี้ ทำให้ขั้นตอนทั้ง 2 อย่างหมดไปด้วยวิธีง่ายๆครับ คือ กล้องทุกกล้องจะมีระบบ Dynamic DNS ของ Engenius ติดมาด้วยเลย ไม่ต้องหาสมัครบริการ มากรอกข้อมูลให้ยุ่งยากแต่อย่างใด รวมไปถึง มีระบบ uPNP เพื่อบอกให้ Router ช่วยทำ Port Forward มายังกล้องได้ทันที และเพื่อให้การ Setup ง่ายที่สุด เค้าก็เลยทำ QR Code มาให้ซึ่งแถมมากับกล่องนี่แหละครับ แค่ใช้ Enviewer ถ่ายรูป QR Code ใบนี้ก็จะสามารถเพิ่มกล้องเข้าไปใน App มือถือได้เลย
IMG_7130
หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ ก็จะเห็นกล้องทันที กดดูได้เลยไม่ว่าจะเป็น WIFI หรือ 3G ใช้ได้หมด
101
EDS-1130 มีความเจ๋งตรงที่สามารถปล่อยภาพออกมาได้ 2 ความละเอียดพร้อมกันครับ แถมเลือกได้เลยว่าจะปล่อยความละเอียดระดับไหนออกมา อย่างในภาพนี้เป็นความละเอียดระดับ 720p ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ได้คมซักเท่าไหร่ แต่ก็มีดีตรงที่ปล่อย 2 ความละเอียดพร้อมกันได้นี่แหละ ตอนต่อ WIFI จะได้ดูภาพแบบ 720p.. ถ้าเกิดต่อ 3G อาจจะดูที่ความละเอียดน้อยลงมาหน่อยเหลือแค่ 480p ก็พอ
IMG_7145
เวลาแสงไม่พอ ตัวกล้องจะมี Sensor ตรวจจับสภาพแสงโดยอัตโนมัติแล้วก็จะฉายแสงอินฟราเรดออกมา ทำให้เรามองเห็นในที่มืดได้แบบนี้เลยครับ

ตัว App สามารถกดอัดวีดีโอแล้วบันทึกลงมือถือได้เลย อันนี้เป็นภาพวีดีโอแบบ 480p ที่อัดบนบน iPhone6 ผ่านระบบ 3G นะครับ ซึ่งจะว่าไป การติดกล้องแบบนี้ก็ทำเอาผมนอยด์มากเหมือนกันนะ
เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนติดกล้องใหม่ๆ ก็เห่อดูเป็นพิเศษ … ขับรถออกมาแล้วก็เลยเปิดกล้องเล่นๆ เพื่อดู ปรากฏว่า เมล่อนมันเห่าไม่หยุดเลยครับ แถมยังมีอาการหวาดกลัวอะไรก็ไม่รู้ขุดชามน้ำใหญ่เลย ซึ่งทุกทีไม่เคยเป็นแบบนี้ สุดท้ายก็ต้องเลี้ยวรถกลับไปดู พบว่า มันเห่า กองทัพนกพิราบที่มาเกาะที่ระเบียง เพราะวันนั้นลืมปิดผ้าม่าน มันเลยเห็นนกพิราบเนี่ยแหละ
SNAG-0115
ตัวกล้องยังมีความสามารถเจ๋งๆอีกเยอะ เช่น ระบบ Upgrade Firmware เป็นรุ่นใหม่โดยอัตโนมัติ
SNAG-0116
เชื่อมต่อกับ Cloud ของ Engenius เพื่ออัพเดท Dynamic DNS
SNAG-0117
Universal Plug and Play เพื่อหมดปัญหาเรื่องทำ Port Forwarding (แต่ Wireless Router ที่ใช้ต้องรองรับ uPnP ด้วยนะครับ)
SNAG-0118
สำหรับ คนที่มี WIFI หลายๆแห่ง สามารถทำ Network Profile หลายๆที่เก็บเอาไว้ได้ เวลาย้ายที่จะได้ต่อง่ายๆโดยที่เราไม่ต้องมานั่ง Config เอง
SNAG-0120
ตัว กล้องสามารถทำ Privacy Mask หรือ ป้ายบดบังเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ครับ เช่นอาจจะตั้งกล้องไว้เพื่อดูว่าใครผ่านมา แต่กล้องมันอาจจะเห็นหน้าต่างบ้านข้างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครไปส่งบ้านเจ๊แก หรือเราเผลอบันทึกหน้าต่างบ้านข้างๆไว้ ก็สามารถสร้าง ป้ายบดบังเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ถึง 3 ป้ายเลยทีเดียวSNAG-0121
การตั้งเวลาบันทึก สามารถทำได้สองแบบ คือ ตั้งเป็น Event หรือตั้งเป็นตารางเวลาครับ
  • แบบ Event คือ เราสามารถกำหนด Zone ด้วยหน้าต่างคล้ายๆ ป้ายบดบังเนี่บแหละ แต่กำหนดว่า ถ้ามีความเคลื่อนไหวใดๆ ผ่านจุดที่เรากำหนดไว้ให้บันทึกโดยอัตโนมัติ
  • แบบ Schedule ก็คือ ตั้งเวลาได้ว่าจะให้อัดกี่โมงกี่ยาม เช่นคุณอาจจะตั้งกล้องไว้หน้าตู้เซฟ แล้วกำหนดว่า ให้บันทึกตั้งแต่หลังเลิกงานไปจนถึงตอนเช้าอะไรแบบนี้ครับ
SNAG-0122
การ ทำ Notification เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถส่งทาง Email ก็ได้ และมี Profile ของ Email Provider ชื่อดังๆ อย่าง Hotmail , Yahoo , Gmail มาครบเลยครับ ไม่ต้องตั้ง Mail Server เอง แถมระบบ Email ยังทำงานเชื่อมกับระบบ Event ด้วยนะ
เช่นตั้งระบบ Event เอาไว้ ถ้ามีคนเดินผ่านห้องนี้ ในช่วงเวลาหลังเลิกงาน นอกจากจะบันทึกภาพเก็บเอาไว้ ยังส่งภาพนิ่งมาทาง Email หาเราทันทีเลยก็ได้ เราจะได้รู้ตัวว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นครับ
IMG_7122
จริงๆ แล้ว EDS-1130 ยังมี Feature ดีๆอีกเยอะมากเลยครับ ต้องยอมรับว่ามันเป็นกล้องที่เก่งและจบในตัวจริงๆ ความสามารถที่อยู่ในกล้อง IP-Camera ตัวใหญ่ๆใส่มาให้ครบเลยทีเดียว จะเสียอย่างเดียวก็คือ มุมกล้องไม่ Wide มาก และคุณภาพของภาพอาจจะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ แต่ด้วยค่าตัวแค่ 5,500 บาท กับความสามารถครบเครื่อง / ง่าย และ รองรับ App บนมือถือด้วย ผมก็ยกให้เป็นกล้อง IP-Camera ที่ผมแนะนำคนรู้จักรัวๆในตอนนี้เลยครับ

เครดิต  
โดย Ripmilla 
ที่มา  freeware.in.th